เมือง Altair และเมือง Fynn
เริ่ม เกมมา Firion Maria Guy และ Leon จะถูกทหารของจักรพรรดิไล่ตาม แต่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหญิง Hilda และ Minwu มาที่เมือง Altair เมื่อฟื้นขึ้นมาจะพบว่า Leon ได้หายไป จากนั้นทั้งหมดได้เข้าไปหาเจ้าหญิง Hilda เพื่อเข้าร่วมกับกองทัพของเจ้าหญิง คุยกับเธอแล้วเธอจะให้คีย์เวิร์ด Wild Rose มา แล้วให้ออกไปสู้กับศัตรูเพื่อเก็บเลเวลและเงินสักหน่อยเพื่อหาซื้อ อาวุธ เครื่องป้อง และเวทมนตร์ติดตัวเสียก่อนโดยเฉพาะเวทย์ Cure เมื่อพร้อมแล้วให้ตรงขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง Altair จะพบกับหมู่บ้าน Gatrea ที่ให้เราแวะเติมพลังได้ ให้เดินอ้อมแม่น้ำด้านบนขึ้นจะพบกับเมือง Fynn ซึ่งตอนนี้โดนกองทัพของจักรพรรดิครอบครองอยู่ ซึ่งตามเมืองจะมีทหารเดินอยู่เต็มไปหมด ให้พยายามหาทางเดินเลาะไปทางด้านหลังจะมีทางเข้าไปที่ Pub ได้ เมื่อเข้ามาให้ตรงเข้าไปคุยกับชายที่อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์โดยใช้คีย์ เวิร์ด Wild Rose แล้วเขาจะเปิดทางลับให้กับเรา ให้เข้าไปในทางลับนั้นแล้วจะพบกับเจ้าชาย Scott นอนบาดเจ็บอยู่ให้คุยกับเขาใช้คีย์เวิร์ดเดิมแล้วเขาจะให้ไอเทม Ring กับเราแล้วเสียชีวิตไป (เมื่อเรามีไอเทม Ring แล้วในตอนนี้จะสามารถกดดูแผนที่โลกได้แล้วโดยกดปุ่ม Select ค้างแล้วกดปุ่มกากบาท)
เมือง Salmand
ให้ย้อน กลับไปที่เมือง Altair แล้วกดใช้ไอเทม Ring กับเจ้าหญิง แล้วเธอจะรู้ว่าเจ้าชาย Scott ตายแล้ว ให้คุยกับเจ้าหญิง Hilda แล้วเธอจะให้คีย์เวิร์ด Mythril กับเรา เธอจะให้เราหาแร่ Mythril นี้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของกองทัพ แล้วให้กดใช้คีย์เวิร์ดนี้กับ Minwu ที่อยู่ข้างๆ เจ้าหญิงและเราจะได้เขามาร่วมเดินทางพร้อมกับได้ไอเทม Canoe (เรือแคนู) มาใช้เพื่อข้ามแม่น้ำ จากนั้นให้ออกจากเมืองตรงขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือจะพบกับเมือง Paloom ที่เมืองนี้จะมีเรือโดยสารไปเมือง Poft ซึ่งช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทางได้เยอะทีเดียว แต่ถ้าประหยัดให้เดินเลาะขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือก็จะไปถึงเมือง Poft ได้ เมื่อมาถึงแล้วให้เดินตรงขึ้นไปทางเหนือจนเจอภูเขาหิมะแล้วให้เดินไปทางทิศ ตะวันตกจะพบกับเมือง Salamand ให้เข้าไปในบ้านมุมขวาบนจะพบกับ Josef ให้ใช้คีย์เวิร์ดนี้กับเขาแล้วเขาจะขอให้เราช่วยชาวบ้านและลูกของเขาที่ถูก จับไปที่ถ้ำ Semett Falls
ถ้ำ Semitt Falls
จาก หมู่บ้าน Salamand ให้เดินไปทางทิศตะวันตก เดินชิดเขาไปเรื่อยๆ แล้วจะเห็นทางที่เป็นแม่น้ำออกมาจากช่องระหว่างเขา ให้ใช้เรือแคนูพายตามแม่น้ำในช่องเขาไปจนสุดจะเจอกับถ้ำ Semitt Falls ให้เข้าไปด้านในจนถึงชั้น B3 ที่นั่นเราจะเจอกับชาว Salamand และ Paul กับ Nelly ลูกสาวของ Josef ให้คุยกับ Paul แล้วเขาจะพาชาวบ้านทั้งหมดหนีออกไป จากนั้นให้ลงมาชั้นในสุด ที่นี่เราจะเจอกับบอส Sergeant ให้จัดการมันให้ได้ แล้วเปิดหีบด้านหลังของมันเราจะได้ไอเทม Mythril มา
จาก นั้นให้ย้อนกลับมาที่เมือง Altair ให้เข้าไปที่ร้านอาวุธแล้วมอบ Mythril กับ Tobul ที่อยู่ในร้านขายอาวุธ แล้วทีนี้ในร้านขายอาวุธและเครื่องป้องกันจะมีของที่ทำด้วย Mythril มาขาย เมื่อซื้ออาวุธและเครื่องป้องกันพร้อมแล้วให้เข้าไปคุยกับเจ้าหญิง Hilda เธอจะให้คีย์เวิร์ดตัวใหม่กับเรา “Dreadnought.” และให้เราหาคนที่ไปเมือง Bafsk เขาจะรู้ทางไป Dreadnought
เมือง Bafsk
ให้ ออกจากเมืองแล้วตรงไปขึ้นเรือไปเมือง Poft เพื่อไปที่เมือง Paloom ให้ออกจากเมืองแล้วเดินไปทางทิศตะวันออกจะพบเมือง Bafsk (ใกล้ๆ กับเมืองจะมีถ้ำที่มีเรือเหาะจอดอยู่) ให้เข้าไปในเมืองแล้วตรงลงมาด้านล่างสุดจะเห็นอัศวินคนหนึ่งที่เราสามารถใช้ คีย์เวิร์ดกับเขาได้ เมื่อกดใช้แล้วเขาจะเปิดทางให้กับเรา ให้ตรงเข้าไปด้านในจะมีทางลงไป Bafsk Cave ให้ตรงเข้าไปด้านในสุดจะพบกับ Dark Knight สมุนมือขวาของจักรพรรดิ แต่เขาจะหนีไปกับเรือเหาะที่ด้านหลังถ้ำ เมื่อ Dark Knight หนีไปแล้ว ให้กลับมาที่ถ้ำแล้วเลี้ยวขวาที่นี่จะมีหีบสมบัติอยู่ให้เปิดออกจะได้ไอเทม Pass มา แล้วให้เดินไปทางขวาจะมีที่วาร์ปออกจากถ้ำนี้ไปนอกเมืองได้
ให้ ย้อนกลับไปที่เมือง Poft แล้วเข้าไปหา Cid ใน Pub คุยกับเขาแล้วจะได้คีย์เวิร์ด Airship มาแล้วให้คุยอีกครั้งก็จะได้คีย์เวิร์ด Sunfire มาหนึ่งอัน จากนั้นให้ย้อนกลับไปที่เมือง Altair เข้าไปคุยกับเจ้าหญิง Hilda แล้วจะทราบว่าพระราชาป่วย Minwu จะขอแยกตัวออกจากเราเพื่อดูแลพระราชา จากนั้นให้ออกมาจากห้องเจ้าหญิงแล้วตรงไปที่ห้องทางด้านขวา เข้าไปด้านในจะเห็นพระราชานอนอยู่ให้คุยกับเขาแล้วจะได้คีย์เวิร์ด Goddess’s Bell มา
ถ้ำ Snow Cavern
ต่อไปให้ไปที่ เมือง Salamand ให้ใช้คีย์เวิร์ด Goddess’s Bell กับ Josef แล้วเขาจะมาเป็นพวกเรา จากนั้นให้ออกจากเมืองแล้วย้อนกลับไปที่ถ้ำ Semitt Fall ให้สำรวจตรงกำแพงมุมขวาบนของคริสตัลสีฟ้าที่อยู่ในชั้น 1 แล้ว Josef เปิดทางลับให้กับเรา ให้ตรงเข้าไปด้านใน เปิดหีบแล้วจะได้ไอเทม Snowcraft มา จากนั้นให้ออกมาจากถ้ำแล้วตรงขึ้นไปทางเหนือจะเจอทางที่เป็นหิมะ ให้เราใช้ Snowcraft วิ่งบนทางหิมะเข้าไปด้านในจะเจอกับถ้ำ Snow Cavern ให้ลงไปถึงชั้น B4 ที่นั่นมีห้องหนึ่งที่พวกตัว Beaver อยู่ ให้คุยกับตัวที่อยู่ด้านบนสุดแล้ว Guy จะขอเข้าไปคุยกับพวกมันเพราะ Guy สามารถคุยภาษา Beaver ได้ แล้ว Beaver ตัวนั้นจะบอกว่ามีทางลับอยู่ตรงกำแพงทางมุมขวาของห้อง ให้เราไปยังจุดนั้นจะสามารถทะลุไปชั้นต่อไปได้ เมื่อลงมาชั้นล่างสุดจะเห็น Goddess’s Bell ติดอยู่กับกำแพง แต่มีบอส Adamantoise ขวางทางอยู่ให้จัดการมันให้ได้ เอา Goddess’s Bell มาแล้วออกทางบันไดด้านหลังจะสามารถโผล่มาที่ชั้น B1 ได้ ให้ตรงออกมาจนถึงทางออกจะเจอกับ Borghen ทหารของจักรพรรดิขวางทางอยู่ ให้จัดการเขาให้ได้ เมื่อจัดการเขาได้แล้ว Borghen ได้ลุกขึ้นมาระเบิดถ้ำทำให้หินกลิ้งตกลงมา Josef ได้สละตัวเองช่วยพวกเราเอาไว้ แต่ก็ต้องแลกด้วยชีวิตของเขา
ปราสาท Kashuan Keep
ให้ ย้อนกลับมาที่เมือง Salamand แล้วคุยกับชาวเมืองจะรู้ว่าทุกคนเสียใจกับการตายของ Josef อย่างมาก จากนั้นให้ย้อนกลับเมือง Altair ไปหาเจ้าหญิง Hilda เธอจะเสียใจกับเรื่องนี้แล้วเธอจะให้พวกเราไปที่ Kashuan Keep ให้ออกจากเมืองแล้วไปทางด้านทิศใต้ของเมือง Bafsk เดินอ้อมเข้ามาในแนวภูเขาตรงใจกลางจะเห็นปราสาท Kashuan Keep อยู่ พอเข้าไปด้านในสุดจะพบว่าประตูถูกล็อคอยู่ให้กดใช้ไอเทม Goddess’s Bell ที่ประตูแล้วจะสามารถเข้าไปด้านในได้ พอเข้ามาด้านในจะพบกับเจ้าชาย Gordon เขากำลังตามหา Egil’s Torch อยู่แล้วเขาจะขอร่วมเดินทางไปกับเรา ให้เข้าไปจนถึงชั้นในสุดจะเจอกับบอส Red Soul ให้จัดการมันให้ได้ แล้วเปิดหีบด้านหลังจะได้ไอเทม Egil’s Torch มา จากนั้นให้ย้อนกลับไปที่ชั้นแรก กดใช้ไอเทม Egil’s Torch กับกองไฟที่อยู่ตรงกลางห้องแล้วจะได้ไอเทม Sunfire มา
เรือเหาะยักษ์ Dreadnaught
พอ ออกมานอกปราสาทจะพบว่าเรือเหาะยักษ์ไล่ตามเรื่อเหาะของ Cid อยู่ ให้เราเดินตรงลงมาจากทางหน้าปราสาทตรงมาเกือบถึงแนวเขาจะเห็นแนวป่าที่เป็น ช่องเล็กให้ตรงเข้าไปตรงนั้นจะเข้าไปในป่าของโจโคโบะได้ ให้เราจับโจโคโบะในนั้นแล้วเราจะเอามันมาขี่ได้ จากนั้นให้ขี่โจโคโบะลงมาทางทิศใต้ข้ามทะเลทรายมาจะเห็นเรือเหาะยักษ์จอด อยู่ ให้ตรงเข้าไปด้านในแล้วจะพบว่ามีทหารขวางอยู่ให้กดใช้ไอเทม Pass กับเขา แล้วเขาจะเปิดทางให้กับเรา ภายในนี้พยายามอย่าเข้าไปคุยกับทหารไม่งั้นเราจะต้องสู้กับเขาซึ่งเก่งพอ สมควรเลยทีเดียว จากนั้นก่อนลุยขึ้นไปชั้นบนให้ไปช่วยเจ้าหญิง Hilda กับ Cid ที่ถูกขังอยู่ในห้องทางมุมซ้ายของชั้น 1F เสียก่อน เมื่อช่วยทั้ง 2 คนออกมาแล้วให้ตรงขึ้นชั้นบนสุดแล้วให้กดใช้ไอเทม Sunfire ตรงเตาพลังงานแล้วหนีออกมา เรือเหาะยักษ์จะระเบิด แล้วพวกเราจะย้อนกลับไปที่เมือง Altair ให้เข้าไปหาพระราชา เขาจะได้มอบหมายให้เจ้าชาย Gordon ดูแลที่นี่แทนแล้วก็สวรรคตไป จากนั้นให้เข้าไปคุยกับเจ้าชาย Gordon ในครั้งแรกเขาจะให้คีย์เวิร์ด Dragoons มาแล้วให้คุยอีกครั้งเขาจะให้คีย์เวิร์ด Wyverns มาให้เราอีก 1 อัน
Castle Deist
ให้ออกมาจากเมืองแล้วตรงไป ที่เมือง Paloom ที่นั่นจะเจอผู้หญิงคนหนึ่งหน้าเมืองให้คุยกับเธอแล้ว เธอจะบอกว่าสามารถพาไปส่งที่ปราสาท Deist ได้ ให้ออกจากเมืองแล้วไปขึ้นเรือที่จอดอยู่ข้างๆ เมือง ทีนี้พอเรือแล่นไปสักพักแล้วเรือจะจอดอยู่กับที่ แล้วเธอจะเปิดเผยตัวว่าเป็นโจรสลัด ให้เราจัดการพวกโจรสลัดให้หมดแล้วหัวหน้าโจร Leila จะขอเป็นพวกกับเราแล้วเราจะได้เรือของเธอมาใช้ด้วย จากนั้นให้ใช้เรือล่องไปที่เกาะที่ทางมุมขวาบนของแผนที่ พอถึงเกาะให้เดินเข้าไปตรงกลางจะเห็นปราสาท Castle Deist เข้าไปด้านในจะพบเด็กคนหนึ่งขวางทางอยู่ให้เข้าไปคุยกับเขาแล้วจะเข้าไปด้าน ในต่อได้ พอเข้าไปด้านในจะพบกับแม่ของเด็กคนนั้น คุยกับเธอแล้วจะรู้ว่ามีมังกรเหลือรอดอยู่ 1 ตัวแต่ไม่สามารถสื่อสารกันได้จำเป็นจะต้องมีไอเทม Pendant ถึงจะสามารถคุยได้ ให้เราออกมาจากปราสาทแล้วตรงขึ้นไปทางทิศเหนือจะมีถ้ำ Deist Cavern อยู่ให้เข้าไปในถ้ำ ในชั้นแรกให้ตรงไปขวาสุดลงบันไดไปจะพบซากโครงกระดูก กดสำรวจแล้วเราจะได้ไอเทม Pendant มาทำให้เราสามารถคุยกับมังกรได้แล้ว ให้ย้อนกลับมาที่ Castle Deist เข้าไปคุยกับมังกร แล้วกดใช้คีย์เวิร์ด Wyverns แล้วมังกรจะวานให้เอา Wyvern Egg ไปที่ Life Spring ที่อยู่ชั้นในสุดของ Deist Cavern ให้ออกจากปราสาทแล้วย้อนกลับไปที่ Deist Cavern อีกครั้ง ให้ลงไปชั้นล่างสุดจะกับบอส Chimera ให้จัดการมัน แล้วกดใช้ไอเทม Wyvern Egg ที่แอ่งน้ำ จากนั้นให้ย้อนกลับไปที่ Castle Deist แล้วจะทราบว่ามังกรได้ตายไปเสียแล้ว
ลานประลอง Coliseum
ที นี้ให้ล่องเรือกลับไปที่เมือง Altair เข้าไปคุยกับเจ้าชาย Gordon แล้วเขาจะบอกว่าเจ้าหญิง Hilda มีอาการแปลกๆ ให้เราลองเข้าไปคุยกับเธอดู ให้เข้าไปหาเจ้าหญิงที่ห้องมุมขวาล่าง แล้วเธอจะขอคุยกับ Firion ตามลำพัง เมื่อคุยกันสักพักเธอจะเผยร่างที่แท้จริงออกมาเป็นปิศาจ Lamia Queen สำหรับปิศาจตัวนี้เป็นอีกตัวที่เก่งพอสมควรเลยทีเดียว โดยเฉพาะเวทย์ Blink ที่มันร่ายใส่ตัวแล้วทำเอาเราไม่สามารถโจมตีโดนมันได้เลย ให้พยายามกระหน่ำเวทย์ใส่ก็จะจัดการเธอได้ จากนั้นจะมีทหารเข้ามาบอกว่าเจ้าหญิง Hilda ได้ถูกให้เป็นรางวัลสำหรับการประลอง แล้ว Gordon จะขอตามเราไปช่วยเจ้าหญิงด้วย แล้วที่เราจะได้ Gordon มาใช้แทน Leila
จาก นั้นให้เดินทางไปที่ทะเลทรายที่อยู่ทางทิศใต้ของปราสาท Kashuan Keep ด้านขวาของทะเลทรายจะมี Coliseum อยู่ให้เข้าไปที่นั่น พอเข้ามาด้านในเราจะถูกจักรพรรดิวางกับดักให้ต้องต่อสู้กับ Behemoth ซึ่งมีพลังถึง 2,000 ให้เราใช้เวทย์ Blink ร่ายใส่พวกเราก็จะสามารถหลบการโจมตีของ Behemoth และจัดการกับมันได้ง่ายเพราะมันจะโจมตีเราไม่โดนเลย เมื่อจัดการได้แล้วตัวจักรพรรดิจะหายตัวไป แล้วเรียกทหารมาจับกุมเราเข้าคุก แต่ Paul จะมาช่วยเราออกไปได้ จากนั้นให้ตรงไปทางมุมขวาบนจะมีทางลงไปชั้น B1 ให้ตรงเข้าไปด้านในสุดจะเห็นเจ้าหญิง Hilda ถูกขังอยู่ให้เข้าไปช่วยเธอแล้ว Gordon จะพาเจ้าหญิงออกไปก่อน
ปราสาท Fynn
ออก มาจาก Coliseum แล้วให้ไปที่ทางด้านซ้ายของหมู่บ้าน Gatrea ที่นั่นจะมีแคมป์ Rebel Camp อยู่ ให้เข้าไปคุยกับเจ้าหญิง Hilda และเจ้าชาย Gordon เพื่อคุยถึงแผนการรบยึดเอาปราสาท Fynn คืน เมื่อพร้อมแล้วให้ตรงไปที่ปราสาท Fynn เลย พอเข้ามาด้านในจะพบกับ Lelia ยืนรออยู่ให้เข้าไปคุยแล้วเธอจะเข้ามาช่วยเราร่วมต่อสู้ ให้ตรงขึ้นไปชั้นบนสุดจะพบกับบอส Gottos จัดการมันให้ได้ก็จะสามารถยึดปราสาท Fynn คืนได้
แล้วเจ้า หญิง Hilda จะกลับมาที่ปราสาท Fynn ให้คุยกับเจ้าหญิง Hilda แล้วจะได้คีย์เวิร์ด Misidia มาแล้วให้คุยอีกครั้งก็จะได้คีย์เวิร์ด Mask มาอีกหนึ่งคำ แล้วให้ใช้คีย์เวิร์ดคำนั้นถามอีกครั้งก็จะได้คีย์เวิร์ด Ekmet Teloess มาอีกหนึ่งคำ แล้วให้ใช้คีย์เวิร์ด Misidia ถามเจ้าชาย Gordon ก็จะได้คีย์เวิร์ด Ultima Tome มาอีก 1 คำ จากนั้นให้ไปกดสำรวจตรงกำแพงทางมุมขวาบนของห้องจะมีจุดหนึ่งที่สามารถใช้ คีย์เวิร์ดได้ ให้กดใช้คีย์เวิร์ด Ekmet Teloess แล้วทางลับจะเปิดออก ซึ่งนี่จะเป็นทางลงไปชั้นใต้ดินของปราสาท Fynn ให้ลงไปชั้นในสุดจะมีห้องหนึ่งที่มี White Mask ให้เก็บแล้วให้เดินขึ้นไปต่อจะมีที่วาร์ปออกนอกปราสาท Fynn ได้
ก่อน ที่เราจะไปหาหน้ากากอีกอันให้ล่องเรือไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของปราสาท Fynn ก่อนที่นั่นจะมีหมู่บ้าน Mysidia ที่มีแต่พ่อมดอยู่ ที่นี่จะมีอาวุธและเครื่องป้องกัน และเวทมนตร์ดีๆ อย่าง Holy ขายอยู่ แต่ราคาของแต่ละอย่างจะแพงมากให้เตรียมเงินให้ดีๆ แต่ทางที่จะไปเมือง Mysidia นั้นต้องบอกเลยว่ามอนสเตอร์โหดสุดๆ แนะนำว่าถ้าเลเวลไม่สูงพอนี่ให้หนีอย่างเดียวเลยจะดีที่สุด เมื่อเตรียมพร้อมแล้วให้ล่องเรือไปที่เกาะ Tropical Island ที่อยู่ทางใต้สุดของแผนที่
Tropical Island
ภาย ในถ้ำนี้จะมีทั้งหมด 5 ชั้นด้วยกัน ซึ่งภายในชั้นที่ 2 นั้นจะมี 2 ทางแยก ถ้าเราไปทางด้านซ้ายจะมีทางลงไปเจอกับพวกที่ใส่หน้ากาก ให้สังเกตตัวที่มีสีแปลกจากตัวอื่น ตัวนั้นเราจะสามารถซื้อของจากพวกเขาได้ ซึ่งจะมีอาวุธ ขวาน และหอกดีๆ ขายกับเรา แต่ถ้าไม่ต้องการซื้อก็ให้อ้อมทางขวาจะมีทางลงไปชั้นต่อไป พอถึงชั้นในสุดจะพบบอส Big Horn จัดการมันให้ได้แล้วเปิดหีบด้านหลังเราจะได้ Black Mask
เมือง Mysidia
ให้ ย้อนกลับมาที่เมือง Myisdia แล้วลงไปชั้นใต้ดินที่อยู่ทางใต้ของหมู่บ้าน กดใช้ไอเทม White Mask กับรูปปั้น จากนั้นให้ออกจากหมู่บ้านแล้วอ้อมแนวภูเขา เพื่อไปยัง Cave of Mysidia ซึ่งภายในนี้จะมีทั้งหมด 5 ชั้นด้วยกัน ในทางลงชั้นที่ 2 จะมีตัวละครที่เหมือนกับเราขวางทางอยู่ให้กดใช้ไอเทม Black Mask กับเขาแล้วตัวเขาจะหายไป ให้ลงไปชั้นในสุดจะมีไอเทม Crystal Rod ให้เก็บ แล้วให้ใช้เวทย์ Teleport วาร์ปออกมาเลย
เมื่อได้ Crystal Rod มาแล้ว เป้าหมายต่อไปก็คือ Mysidia Tower ที่อยู่ทางเหนือของหมู่บ้าน Mysidia ซึ่งจะต้องใช้เรืออ้อมเข้าไปทางทะเลตรงกลางแผนที่ เมื่อเราล่องเรือไปถึงปากอ่าวก่อนถึง Mysidia Tower พวกเราจะถูกน้ำวนดูดเข้าไปใน Leviathan ซึ่งภายในนี้จะมีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน เมื่อลงไปถึงชั้น 2 จะเจอกับอัศวินมังกรคนหนึ่งให้กดใช้ไอเทม Crystal Rod กับเขาแล้วจะได้เขามาเป็นพวก จากนั้นให้ลงไปที่ชั้น 3 จะเจอกับบอส Round Worm ขวางเรือเราอยู่ให้จัดการมันแล้วจะเอาเรือออกทะเลด้านนอกได้
Mysidia Tower
ให้ ล่องเรือไปที่หอคอยแล้วกดสำรวจที่หอคอยนั้นแล้วเราจะใช้ Crystal Rod เปิดทางเข้าไปในหอคอยได้ สำหรับที่นี่จะมีทั้งหมด 10 ชั้นด้วยกัน ซึ่งภายในนี้จะมีบอสคอยขวางทางอยู่ตามชั้นดังนี้ ชั้น 3 บอส Fire Gigas, ชั้น 5 Ice Gigas, ชั้น 7 Thunder Gigas และในชั้นที่ 9 นั้นยังมีมอนสเตอร์ White Dragon คอยเฝ้าหีบทางมุมขวาบนของชั้นอยู่ ซึ่งการจัดการบอสตัวนี้ไม่ยากเลยถ้าเราอัพเวทย์เลเวลสูงแล้วสามารถยิงมันที เดียวตายได้ ซึ่งเจ้าตัวนี้ดรอปของดีอย่าง Genji Glove ด้วยถ้าโชคดีอาจได้มาใช้ จากนั้นให้ลุยจนถึงชั้น 10 แล้วจะพบกับ Minwu รอเราอยู่ เขาจะใช้พลังทั้งหมดของเขาเปิดประตูที่ผนึกอยู่จนเขาเสียชีวิตไป ให้เข้าไปด้านในสุดจะมีคริสตัล 5 ลูก แนะนำให้ไปสำรวจคริสตัลทั้ง 4 ลูกที่อยู่ด้านข้างเสียก่อนเพราะคริสตัลแต่ละลูกจะสุ่มเพิ่มค่าสเตตัสให้กับ เราได้ จากนั้นให้สำรวจคริสตัลตรงกลางแล้วเราจะได้เวทย์ Ultima มาใช้ แล้วให้เดินไปที่แท่นวาร์ปด้านหลังเพื่อออกไปนอกหอคอย
Cyclone
ให้ ย้อนกลับมาที่ปราสาท Fynn จะพบว่า Leila ยังไม่ตายแต่เธอถูกกระแสน้ำพัดกระเด็นไปที่อื่น แล้วให้เข้าไปคุยกับเจ้าหญิง Hilda เธอจะให้คีย์เวิร์ด Cyclone มาจากนั้นให้ไปมุมซ้ายของชั้น 1 จะมีทางขึ้นไปชั้น 3 ของปราสาทให้ตรงเข้าไปด้านในสุดจะพบกระจกบานใหญ่ให้กดใช้ไอเทม Pendant ที่นั่นแล้วจะเห็นว่าไข่มังกรได้ฟักออกมาแล้ว แล้วมังกรตัวนั้นได้บินมาหาเราพร้อมทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับอัศวินมังกรทำให้ เราสามารถใช้มังกรบินเข้าไปในพายุ Cyclone นั้นได้ จากนั้นให้เข้าไปในเมือง Fynn เข้าไปคุยกับ Paul ที่อยู่บ้านทางซ้าย โดยใช้คีย์เวิร์ด Cyclone เขาจะบอกที่ซ่อนไอเทมดีๆ ที่เขาเก็บไว้ให้กับเรา ซึ่งทางเข้าไปเอาจะอยู่ตรงมุมขวาของเตียงของเขา ให้เราเข้าไปเก็บมาให้หมดโดยเฉพาะ Blood Sword นี่ห้ามพลาดเด็ดขาด!
จาก นั้นให้ตรงไปที่ Cyclone ที่อยู่ข้างๆ ปราสาท Fynn ได้เลย โดยเมื่อถึง Cyclone เราจะขี่ Wyvern เข้าไปในใจกลางพายุได้ ซึ่งภายในนี้จะมีทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกันให้ตรงเข้าไปชั้นในสุดเราจะพบกับจักรพรรดิ ซึ่งเราจะต้องสู้กับลูกน้องของเขาก่อน 2 ครั้ง ถึงจะสู้กับตัวจักรพรรดิเอง ให้จัดการจักรพรรดิให้ได้ แล้วเราจะย้อนกลับไปที่ปราสาท Fynn เพื่อทำการฉลองชัยชนะ แต่ขณะที่มีงานเลี้ยงอยู่นั้นก็มีทหารคนหนึ่งเข้ามาบอกว่า Dark Knight ได้ครอบครองปราสาท Palamecia เสียเองและได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้ว Dark Knight ก็คือ Leon นั่นเอง
ปราสาท Palamecia
ให้ คุยกับเจ้าหญิง Hilda แล้วจะได้คีย์เวิร์ด Palamecia มา จากนั้นให้ไปที่บ้านของ Paul ในเมือง Fynn แล้วจะพบว่า Cid บาดเจ็บอยู่ที่เตียง ให้เข้าไปคุยกับ Cid แล้ว Cid จะให้เรือเหาะกับเราและได้ตายไป แล้วให้ไปคุยกับ Paul โดยใช้คีย์เวิร์ด Palamecia แล้วเขาจะบอกว่าให้ใช้เรือเหาะไปจอดลงที่ปราสาท Palamecia ทางหลังคาถึงจะเข้าไปได้ จากนั้นให้ออกจากเมืองแล้วตรงไปเมือง Poft เพื่อเอาเรือเหาะได้เลย
ให้ใช้เรือเหาะบินไปใกล้ๆ กับ Coliseum จะเห็นปราสาท Palamecia อยู่ ให้จอดตรงหลังคาปราสาท แล้วเราจะเข้าไปในนี้ได้ สำหรับที่นี่จะมีทั้งหมด 8 ชั้นด้วยกัน ให้เข้าไปจนสุดจะพบกับ Dark Knight ขณะที่คุยอยู่นั้นจักรพรรดิที่ตายไปแล้วจะโผล่ออกมาแล้วใช้เวทย์ล้อมรอบตัว เรา ซึ่ง Ricard จะสละตัวเองเพื่อถ่วงเวลาให้พวกเราใช้มังกรเหาะหนีไป แล้วประสาทจะระเบิด
หลังจากปราสาทระเบิดพวกเราจะกลับไปที่ปราสาท Fynn เราจะคุยกับองค์หญิงเรื่อง Leon แล้วจะได้เขามาเป็นพวก จากนั้นให้เข้าไปคุยกับเจ้าหญิงแล้วจะได้คีย์เวิร์ด Jade Passage มา ให้ออกมาจากปราสาทแต่ก่อนที่จะไป Jade Passage ให้แวะไปที่ Casltel Deist ก่อนให้เข้าไปคุยกับแม่ของเด็กที่อยู่ชั้น 2 โดยใช้คีย์เวิร์ด Dragoons แล้วเธอจะให้ดาบ Excaliber เป็นของตอบแทนแก่เรา
Jade Passage
เมื่อ เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วให้บังคับเรือเหาะไปตะวันออกเฉียงใต้ของ Coliseum (บริเวณตรงกลางแผนที่) จะเห็นพื้นที่เป็นวงกลมคล้ายๆ กับแอ่งน้ำ ให้จอดเรือเหาะแล้วเดินเข้าไปแล้วตัวเราจะถูกดูดเข้าไปใน Jade Passage สำหรับที่นี่จะมีทั้งหมด 6 ชั้นด้วยกัน ในชั้น B3 จะมีร้านค้าลับที่ขายเวทมนตร์เจ๋งๆ อย่าง Flare อยู่ด้วย ซึ่งร้านจะตั้งอยู่ด้านหลังน้ำตกชั้นล่างสุดให้กดสำรวจบริเวณตรงกลางก็จะกด ซื้อเวทย์ได้ แล้วตรงเข้าไปถึงชั้น B6 จะมีทางเข้าไปยังตัวปราสาท Pandomenium
Pandomenium
สำหรับที่นี่จะเป็น ดันเจี้ยนสุดท้ายที่รวมเอามอนสเตอร์สุดโหดไว้เต็มเลย ซึ่งที่นี่จะมีทั้งหมด 10 ชั้นด้วย กัน ซึ่งภายในนี้จะมีไอเทมดีๆ ให้เก็บเยอะแยะเลยแต่ทว่าไอเทมเหล่านั้นล้วนมีมอนสเตอร์โหดๆ เฝ้าอยู่ทั้งนั้น ให้พยายามจัดการแล้วเก็บไอเทมเหล่านั้นให้ได้ และที่พิเศษคือในชั้น B5 นั้นมีทางลับที่เอาดาบสุดยอด (ในแบบ Final Fantasy แบบดั้งเดิมนะ) Masamune ซึ่งจะอยู่ตรงกำแพงมุมขวาบนสุดของชั้น ให้ลองสำรวจดูดีๆ จะสามารถเดินทะลุกำแพงเข้าไปเอาดาบเล่มนี้ได้ จากนั้นให้ลุยเข้าไปถึงชั้นในสุดจะพบกับจักรพรรดิในร่างที่แท้จริง ซึ่งบอกได้เลยว่าโหดมากๆ โดยเฉพาะท่าโจมตีธรรมดาก็ปาไปเกือบ 2 พันเลยทีเดียว แถมยังมีเวทย์โหดๆ อีกต่างหาก แต่สำหรับบอสตัวนี้มีทริคง่ายๆ อยู่ก่อนที่จะสู้นั้นให้ตัวละครที่มีเลเวลดาบสูงๆ ใส่ดาบ Blood Sword ก่อน ทีนี้การจัดการบอสก็ง่ายๆ เพราะบอสตัวนี้มีพลังป้องกันที่สูงมาก ถ้าใช้อาวุธธรรมดาหรือดาบ Masamune ก็ตามยังฟันลดไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็น Blood Sword ละก็ ฟันทีพลังลดฮวบๆ ทีนี้ก็สามารถจัดการบอสได้อย่างง่ายดาย แล้วโลกก็จะกลับสู่ความสงบสุข
Soul of Rebirth
Unknown Cave
สำหรับ โหมดนี้จะมีเพิ่มขึ้นมาก็ต่อเมื่อเล่นจบ 1 รอบ ซึ่งในโหมดนี้จะต้องเล่นเนื้อเรื่องของตัวละครที่ตายไปแล้วอย่าง Minwu เขาจะฟื้นขึ้นมาที่ Unknow Cave พอเขาเข้าไปในถ้ำก็จะพบชายคนหนึ่งกำลังโดนล้อมอยู่เขาจึงเข้าไปช่วย ซึ่งจะเริ่มต่อสู้ทันทีศัตรูจะเป็น Dark Knight และ Sergeant 2 ตัว ให้พยายามจัดการมันให้ได้ พอจบการต่อสู้แล้วจะรู้ว่าชายคนนั้นคือเจ้าชาย Scott พี่ชายของเจ้าชาย Gordon ที่เสียชีวิตไปแล้ว และทั้ง 2 จะร่วมเดินทางไปด้วยกันเพื่อสืบหาความจริงว่าทำไมทั้ง 2 จึงอยู่ที่นี่ได้ จากนั้นให้ตรงไปชั้น B2 แล้วตรงขึ้นไปด้านบนจะพบกับ Josef กำลังต่อสู้กับ Undead Boghen อยู่ให้ช่วยจัดการให้ได้ แล้วจะได้ Josef เป็นพวก แล้วให้ตรงไปชั้น B3 ที่นี่ตรงใต้น้ำตกจะมีร้านขายเวทย์อยู่ ให้พยายามเก็บเงินโดยสู้กับมอนสเตอร์แล้วเอาไอเทมที่ไม่ใช้ขายเพื่อเอาเงิน ไปซื้อเวทย์มาติดตัวไว้โดยเฉพาะ Flare จะมีประโยชน์มากๆ จากนั้นให้หาทางลงไปถึงชั้น B5 ให้ตรงเข้าไปจนเจอกับมอนสเตอร์ Round Worm ให้กดต่อสู้แล้ว Ricard จะโผล่ออกมาช่วยเรา เมื่อจัดการได้แล้วจะได้ Ricard มาเป็นพวก จากนั้นให้ตรงเข้าไปชั้นในสุดจะพบที่วาร์ปโผล่ออกมาที่เมือง Machanon
Machanon
ภาย ในเมืองนี้จะพบกับคนที่ได้ตายไปแล้วทั้งหมด รวมทั้ง Cid เขาจะอยู่ภายใน Pub ให้เข้าไปคุยกับแล้วจะรู้ว่าเมืองนี้ได้ถูกสร้างขึ้นจากเหล่าคนตายที่หลง เข้ามาที่นี่ ซึ่งที่นี่จะมีอาวุธ เครื่องป้อง และเวทมนตร์ต่างๆ ขายให้กับเรา ให้พยายามหาเงินเพื่อมาซื้อของอัพเกรดตัวเรา และเก็บเลเวลภายใน Unknown Cave ให้เลเวลอาวุธและเวทมนตร์ให้สูงพอเสียก่อน เมื่อพร้อมแล้วก่อนที่จะลุย... ให้ตรงมาทางมุมขวาล่างที่นี่จะมีที่วาร์ปไปที่ Chamber of the Seal หรือสถานที่ที่ผนึกเวทย์ Ultima อยู่นั่นเอง ให้เข้าไปที่นั่นแล้ว Minwu จะใช้พลังของเขาเปิดผนึกนั้นได้ เมื่อเข้าไปด้านในให้สำรวจคริสตัลทั้ง 4 ที่อยู่รอบด้านเพื่อเพิ่มค่าสเตตัสของพวกเราก่อน จากนั้นเมื่อพร้อมแล้วให้สำรวจคริสตัลตรงกลางแล้วเราจะต้องสู้บอส Ultima Weapon เพื่อจะเปิดผนึกเวทย์ Ultima ซึ่งบอสตัวนี้มีพลังถึง 15,000 ซึ่งเยอะมาก แถมอึดอีกถ้าเลเวลอาวุธเราไม่สูงแทบจะฟันมันไม่เข้าเลยทีเดียว แนะนำ Flare เลเวลสูงๆ ยิงใส่จะดีที่สุด พร้อมกับร่ายเวทย์ Blink และ Protect ก็จะช่วยให้รอดจากโจมตีของมันได้ ให้พยายามยิงเวทย์ใส่มันไปเรื่อยๆ ก็จะจัดการมันได้ไม่ยาก และจะได้เวทย์ Ultima มาใช้ จากนั้นเมื่อพร้อมแล้วให้วาร์ปกลับไปที่เมืองแล้วขึ้นไปทางเหนือของหมู่บ้าน จะมีที่วาร์ปไป Unknown Palace ได้
Unknown Palace
สำหรับ ที่นี่จะเหมือนกับปราสาท Pandomenium แต่ว่าจะอยู่ในลักษณะกลับด้านและศัตรูจะโหดกว่ามาก เรียกได้ว่ามอนสเตอร์แต่ละตัวนั้นอัพเกรดมาเต็มสูบเลย และภายในนี้ก็จะมีไอเทมดีๆ พร้อมกับมีมินิบอสโหดเฝ้าอยู่เช่นเดิม ซึ่งบอสเหล่านี้จะเฝ้าอยู่ในหีบชั้น B5 โดยเฉพาะไอเทม Star Dust Rod ที่กดใช้เป็นไอเทมแล้วจะสามารถร่ายเวทย์ Fire เลเวล 16 ได้ Wild Rose ที่ซ่อนอยู่กำแพงด้านซ้ายบนสุดของชั้น ที่กดใช้เป็นไอเทมแล้วจะสามารถร่ายเวทย์ Berserk เลเวล 16 ได้ จากนั้นให้ลุยเข้าไปถึงชั้นในสุด จะพบกับจักรพรรดิในร่างที่คล้ายกับเทพ ซึ่งจักรพรรดิบอกว่านี่คือร่างอีกครึ่งหนึ่งที่มีพลังเทพอยู่แล้วเขาจะขอ ร้องให้ยกโทษให้กับการกระทำของเขาพร้อมกับจะทำให้พวก Minwu เป็นอมตะ แต่เจ้าหญิง Hilda, Nelly, เจ้าชาย Gordon และแฟนและลูกของ Ricard จะมาบอกให้อย่าไปหลงเชื่อคำพูดของจักรพรรดิ แล้วพวก Minwu จะตัดสินใจสู้กับจักรพรรดิ ซึ่งจักรพรรดิในร่างนี้เรียกได้ว่าโหดกว่าร่างที่แล้วสุดๆ มีพลังมากถึง 25,000 แถมยังโจมตีแรงและชอบใช้เวทย์ Flare และ Stardust โจมตีเป็นกลุ่มใส่เราตลอด สำหรับการจัดการบอสตัวนี้นั้นแนะนำให้ Minwu ใช้เวทย์เติมพลังสลับกับเวทย์ Flare ยิงใส่บอส Scott ให้ใช้ดาบ Wild Rose เพิ่มพลังโจมตี พร้อมกับเปลี่ยนเป็นดาบ Ancient Sword ฟันให้บอสติดสถานะ Curse ส่วน Josef กระหน่ำต่อย และที่โจมตีได้แรงสุดก็ Ricard ด้วยอาวุธ Wyvern Lance นั้นสามารถโจมตีจักรพรรดิได้แรงมากๆ ให้ทำตามวิธีนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะจัดการจักรพรรดิได้อย่างง่ายดาย แล้วโลกก็จะกลับสู่ความสงบสุขอย่างแท้จริง
Arcane Labyrinth
สำ หรับดันเจี้ยนนี้เป็นดันเจี้ยนใหม่ที่ได้ถูกเพิ่มเข้าใน Final Fantasy II Anniversary โดยเฉพาะ ภายในดันเจี้ยนนี้จำเป็นต้องใช้คีย์เวิร์ดที่ได้มาตามเนื้อเรื่องไปใช้ปลด ผนึก โดยที่แต่ละคีย์เวิร์ดที่ใช้ในแต่ละถ้ำนั้นมีผลต่อตัวละครของเราด้วย เช่น บางคีย์เวิร์ดจะมีการเพิ่มค่าสเตตัสของตัวละครที่ส่งผลดี หรือไม่ถ้าคีย์เวิร์ดนั้นๆ ไม่ส่งผลดีต่อใครเลยก็อาจทำให้ศัตรูที่พบโหดและเยอะขึ้นด้วย สำหรับการที่จะดูว่าคีย์เวิร์ดไหนส่งผลต่อตัวละครอย่างไร สามารถดูได้โดยคุยกับพ่อมดที่อยู่ภายในถ้ำเขาจะบอกว่าคีย์เวิร์ดไหนส่งผล อะไรต่อเรามั่ง
ดันเจี้ยนนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ถ้ำด้วยกันกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ดังนี้ ถ้ำแรก Arcane Labyrinth Northwest Quarter อยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง Salamand ถ้ำที่ 2 Arcane Labyrinth Northeast Quarter อยู่ทางทิศตะวันออกของเมือง Salamand และถ้ำสุดท้าย Arcane Labyrinth Southern Keep อยู่ทางทิศใต้ของเมือง Poft สำหรับการปลดผนึกแต่ละถ้ำจะใช้คีย์เวิร์ดไม่เท่ากัน ถ้ำแรกต้องแก้คีย์เวิร์ดให้ได้ 4 คำ ถ้ำที่สอง 7 คำ และถ้ำสุดท้าย 10 คำ เมื่อแก้ได้ครบตามเงื่อนไขแล้วจะต้องสู้กับบอสที่เฝ้าแต่ละถ้ำ จัดการบอสให้ได้ถึงจะปิดผนึกถ้ำได้
คีย์เวิร์ด Wild Rose
ให้เข้าไปช่วยจัดการทหารของจักรพรรดิที่สู้กับทหารของเราอยู่ให้หมด 5 ตัว เมื่อจัดการหมดแล้วให้ย้อนกลับมาคุยกับทหารที่ไม่ได้สู้กับใครที่อยู่กลาง ห้องนี้แล้วจะได้คีย์เวิร์ด Tracking มา
คีย์เวิร์ด Tracking
ภายในห้องนี้จะไม่มีคีย์เวิร์ดใหม่ให้กับเราแต่จะมีเพียงคำปริศนาให้เราเท่า นั้น โดยให้ตรงไปทางขวาพอเจอทางแยกให้ ลง, ลง, ซ้าย, ลง, ขวา, ขวา จะพบดวงไฟดวงหนึ่งให้คำปริศนากับเรา จากนั้นให้ย้อนกลับมาทางเดิมแล้วตรงไปทางขวาจะมีทางลงไปที่ไฟสีชมพูเพื่อใส่ คีย์เวิร์ดใหม่
คีย์เวิร์ด Mythril
ก่อนอื่นให้ตรงไปทางมุมขวาล่างของห้องนี้จะพบชายคนหนึ่ง ให้คุยกับเขาแล้วเขจะให้เราหา Mythril Ore ให้กับเขา ซึ่งถูกเก็บอยู่ภายในบ่อน้ำของห้องนี้ ให้เราพยายามสุ่มหาให้เจอเพราะจุดที่มีนั้นจะถูกแรนดอม เมื่อเจอแล้วให้ย้อนกลับไปคุยกับชายคนเดิมแล้วเขาจะให้คีย์เวิร์ด Mythril แก่เรา
คีย์เวิร์ด Mirror
ภายในห้องนี้จะไม่มีคีย์เวิร์ดใหม่ให้กับเราแต่จะมีเพียงคำปริศนาให้เราเท่า นั้น ซึ่งภายในนี้ตามทางจะมีจุดที่ทำให้ปุ่มบังคับการเดินของเราสลับกลับด้าน ทำให้เราอาจเดินตกช่องว่างแล้วย้อนกลับไปเริ่มใหม่ได้ให้ระวังด้วย สำหรับห้องนี้ให้เราตรงไปแยกทางซ้ายขึ้นไปจนสุดจะพบชายคนหนึ่งยืนอยู่ให้คุย กับเขาแล้วจะให้คำบอกใบ้อะไรสักอย่างกับเรามา เมื่อคุยจบให้ตรงไปแยกทางขวาจะมีทางตรงไปที่ไฟสีชมพูเพื่อใส่คีย์เวิร์ดใหม่คีย์เวิร์ด Airshi
เราจะอยู่บนเรือเหาะให้คุยกับลูกเรือแล้วเขาจะถามหาอุปกรณ์ซ่อมเรืออย่าง Saw Hammer และ Nail ให้เราหาให้เขาโดย Saw จะอยู่กับลูกเรือคนหนึ่ง ส่วน Hammer ให้สำรวจกองไม้สีเทาทางด้านมุมขวาของเรือเหาะ ส่วน Nail จะอยู่ที่ลังใกล้ๆ กับคนที่บอกว่า Nail อยู่ที่ไหนลองกดสำรวจลังดูก็จะพบ เมื่อเอาของทั้ง 3 อย่างให้ครบแล้ว คนที่เราเอาของให้ไปเป็นคนสุดท้ายเขาจะให้คีย์เวิร์ด Wind กับเรา
คีย์เวิร์ด Wind
ภายในห้องนี้จะไม่มีคีย์เวิร์ดใหม่ให้กับเราแต่จะมีเพียงคำเตือนให้ระวังลม ในห้องนี้ให้เราเท่านั้น โดยก่อนอื่นให้เดินตกลงมาจากทางเดินแล้วเราจะตกลงมายังห้องที่มีชายคนหนึ่ง ยืนอยู่ ให้คุยกับเขาแล้วเขาจะบอกว่าให้ระวังลมแรงที่จะคอยพัดเราออกนอกเส้นทางได้ เมื่อคุยจบให้ตรงไปแล้วให้เข้าไปที่วาร์ปเราจะย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นได้ จากนั้นให้พยายามเดินฝ่าลมไปทางขวาของห้องนี้จะมีทางตรงไปที่ไฟสีชมพูเพื่อ ใส่คีย์เวิร์ดใหม่ได้
คีย์เวิร์ด Dreadnaught
ที่นี่ให้คุยกับทหารของจักรพรรดิแล้วเขาจะให้หาทางไปที่เตาพลังงานเพื่อดับ ความร้อนของมันแล้วเขาจะเดินหนีไป ให้เดินลงบันไดมาด้านล่าง โดยที่จะต้องหลบพื้นที่ที่มีไฟสีแดง ซึ่งถ้าเหยียบตรงพื้นที่นั้นจะต้องต่อสู้กับศัตรู ให้พยายามทางเข้าไปด้านในสุดซึ่งตามทางจะมีทหารขวางอยู่ด้วยให้จัดการซะพอ ถึงเตาพลังให้กดใช้ไอเทม Blizzard Tome เพื่อดับความร้อนของเตาพลังงาน แล้วให้ย้อนออกมาจะพบทหารคนนั้นกลับมาที่เดิมให้เข้าไปคุยจะได้คีย์เวิร์ด ใหม่ Aquifer
คีย์เวิร์ด Aquifer
ให้ตรงเข้าไปถึงตรงจะพบกับเด็กคนหนึ่งเขาจะพูดถึง Adamantoise ซึ่งเจ้าตัวนี้จะแรนดอมโผล่ออกมาเจอ ถ้าเราสามารถจัดการฆ่า Adamantoise ได้แล้วให้ไปคุยกับเด็กคนนั้นแล้วเขาจะให้คีย์เวิร์ด Cave กับเรา
คีย์เวิร์ด Cave
ให้ตรงไปทางทิศตะวันตกจะพบชายแก่คนหนึ่ง เขาจะถามหา Small Box ที่อยู่ด้านใต้ก้อนหินสีฟ้าก้อนใดก้อนหนึ่ง ให้กดสำรวจดู ซึ่งบางครั้งอาจเจอกับมอนสเตอร์ได้ ให้ไปสำรวจหินสีฟ้าที่อยู่มุมขวาบนของที่นี่จะพบ Little Box เอาไปให้ชายแก่คนนั้นแล้วเขาจะให้คีย์เวิร์ด Wizard กับเรา
คีย์เวิร์ด Wizard
ให้หาทางตรงไปมุมขวาบนของห้องแล้วจะพบลูกแล้วสีฟ้า 4 ลูกขวางทางอยู่ให้กดสำรวจ จากนั้นให้หาพ่อมดทั้ง 4 คนที่เฝ้าลูกแก้วนี้อยู่ตามที่ต่างๆ ในห้องนี้เมื่อจัดการพวกเขาได้แล้วลูกแก้วจะหายไปเมื่อลูกแก้วหายไปหมดแล้ว ให้เราตรงผ่านลูกแก้วไปจะพบผู้หญิงคนหนึ่งให้คุยกับเธอแล้วเธอจะให้คีย์ เวิร์ดใหม่ Candelabra แก่เรา
คีย์เวิร์ด Candelabra
ภายในห้องนี้จะไม่มีคีย์เวิร์ดใหม่ให้กับเราแต่จะมีเพียงคำเตือนจากชายที่ อยู่ใกล้ๆ กับจุดเริ่มต้นเท่านั้น ให้คุยกับเขาแล้วเขาจะระวังเรื่องไฟภายในห้องนี้ที่จะคอยดับลง ซึ่งอาจทำให้เราเดินตกเหวได้ โดยให้ตรงไปทางมุมซ้ายล่างของห้องจะมีไฟสีชมพูเพื่อใส่คีย์เวิร์ดใหม่ได้ ซึ่งขณะที่เดินไปให้รอเวลาที่ไฟสว่างค่อยเดินจะทำให้ไม่ตกเหวได้ง่ายๆ
คีย์เวิร์ด Goddess’s Bell
ที่นี่จะมีเสียงกระดิ่งดังขึ้นตลอด ซึ่งถ้าอยู่ใกล้กระดิ่งจะได้ยินเสียงถี่ขึ้นให้ตรงไปยังมุมซ้ายบนสุดของที่ นี่จะพบกระดิ่งอยู่ที่กำแพง ให้กดสำรวจแล้วจะได้คีย์เวิร์ด Dense Fog มา
คีย์เวิร์ด Dense Fog
ภายในห้องนี้จะไม่มีคีย์เวิร์ดใหม่ให้กับเราแต่จะมีเพียงคำปริศนาให้เราเท่า นั้น ให้ตรงเข้ามาด้านในสุดจะพบชายคนหนึ่งเดินอยู่ ให้เข้าไปคุยแล้วเขาจะวานให้หาวิธีเปิดกล่องที่อยู่ทางมุมซ้ายล่าง และถ้าเปิดได้ให้ย้อนกลับไปคุยกับเขา ซึ่งหีบด้านหลังจะเปิดแบบปกติไม่ได้ ให้เดินไปทางมุมขวาบนของที่นี่ ตรงกำแพงด้านบนจะมีแผ่นหินที่มีข้อความให้กดสำรวจแล้วย้อนกลับไปที่หีบ เราจะสามารถเปิดหีบได้แล้วจะได้ Ancient Text มา ให้ย้อนกลับไปคุยกับชายคนที่อยู่ด้านในแล้วเขาจะเล่าถึงตำนาน 3 นักรบมังกรนาม Orga, Vishuss และ Maya
คีย์เวิร์ด Wyvern
ให้หาทางเข้าไปตรงกลางของห้องนี้แล้วจะพบกับมังกรนอนอยู่ให้เรากดใช้ไอเทม Goddess’s Bell แล้วมังกรจะตื่น จากนั้นให้กดใช้ไอเทม Pendant แล้วจะสามารถคุยกับมังกรได้ แล้วมังกรจะบอกว่าตัวเขาไม่แข็งแรงต้องการของที่จะช่วยเพิ่มพลังให้กับเขา ได้ ให้กดใช้ไอเทม Potion กับเขาแล้วเขาจะให้คีย์เวิร์ด Darkness กับเรา
คีย์เวิร์ด Darkness
ภายในนี้จะมีทางวงกตที่เรามองไม่เห็นอยู่กลางห้องให้เราตรงไปตามทางจนเกือบ ถึงลูกไฟสีชมพูจะมีบล็อกใสอันหนึ่งยื่นเข้าไปตรงใจกลางตรงนั้นจะเป็นจุด เริ่มต้นของทางวงกตที่ไม่มีเส้นทางบอก ให้เราเข้าไปในทางวงกตนั้นปลดปล่อยไฟวิญญาณสีแดงทั้ง 15 ดวง ด้านในให้หมด แล้วไปคุยกับลูกไฟที่อยู่ด้านในสุดของทางวงกตแล้วเขาจะให้คีย์เวิร์ด Thundercloud กับเรา
คีย์เวิร์ด Thundercloud
ภายในห้องนี้จะไม่มีคีย์เวิร์ดใหม่ให้กับเรา แต่จะมีเพียงคำใบ้ปริศนาที่เราจะได้ก็ต่อเมื่อไปคุยกับชายที่อยู่ด้านขวาของ ห้อง เขาจะขอให้เราหาพลังไฟฟ้าให้กับเขา โดยวิธีที่จะได้พลังไฟฟ้าก็คือให้เดินผ่านเส้นทางสีเหลืองที่มีกระแสไฟฟ้า ไหลผ่านอยู่ ให้เดินผ่านเส้นทางนั้นสักพักแล้วย้อนกลับมาคุย เขาจะให้คำใบ้กับเราแล้วให้ไปทางมุมซ้ายล่างทางตรงไปที่ไฟสีชมพูเพื่อใส่ คีย์เวิร์ดใหม่ได้
คีย์เวิร์ด Dragoons
ที่นี่เราจะต้องกำจัดวิญญาณอัศวินมังกรทั้ง 3 คน ซึ่งพวกเขาจะอยู่ในรูปแบบลูกไฟ ให้เข้าไปคุยแล้วเขาจะถามเราว่าจะหนีหรือไม่ ให้ตอบ No แล้วเราจะสู้กับเขา ซึ่ง Maya จะเป็น Lamia ส่วน Vishuss และ Orga จะเป็น Black Knight ให้จัดการให้หมด
คีย์เวิร์ด Mysidia
ให้หาทางตรงไปยังด้านบนสุดของห้องนี้จะพบมนุษย์ยักษ์อยู่ให้คุยกับเขาแล้ว ให้ตอบ Yes ในตอนแรก แล้วเขาจะขอไอเทมกับเราดังนี้ Potion, Ether และ Elixer แล้วเขาจะเปิดทางให้กับเรา ให้เข้าไปสำรวจรูปปั้นแล้วย้อนกลับมาตรงกลางห้องจะพบชายคนหนึ่งให้เข้าไปคุย แล้วเขาจะให้คีย์เวิร์ด Desert กับเรา
คีย์เวิร์ด Desert
เราจะมาโผล่ที่ทะเลทรายแห่งหนึ่ง ให้เดินไปที่ด้านหน้าหีบสมบัติที่อยู่ใกล้ๆ กับจุดที่เริ่มตอนแรกจากนั้นให้ตรงไปทางขวาเรื่อยๆ แล้วเราจะตกลงไปยังหลุมด้านล่าง ที่นั่นจะพบชายคนหนึ่งให้คุยกับเขาแล้วได้คีย์เวิร์ด Oasis มา แล้วให้ใช้ที่วาร์ปย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นแล้วเดินลงมาด้านล่างจะพบไฟสี ชมพูเพื่อใช้คีย์เวิร์ดที่ได้มา
คีย์เวิร์ด Oasis
เผยแพร่บทความ
ภายในห้องนี้จะไม่มีคีย์เวิร์ดใหม่ให้กับเราแต่จะมีเพียงคำใบ้ปริศนา ให้ตรงขึ้นไปด้านบนจะพบลูกไฟดวงหนึ่งให้เข้าไปคุยแล้วเขาจะขอให้เรานำทางไป ที่เสาต้นหนึ่ง ให้ตอบดังนี้ Yes, Yes, Yes, No, No แล้วเราจะพาลูกไฟมาที่เสาได้แล้วเขาจะให้คำปริศนาแก่เรา
คีย์เวิร์ด Mask
ที่อันนี้นับเป็นดันเจี้ยนากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเราต้องหาทางทำให้ตัวละครที่เหมือนกับเราที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเดินมายัง จุดสีแดงตรงกลางห้องให้ได้ ซึ่งเจ้าตัวเหมือนนี้จะเคลื่อนไหวเหมือนเราทุกอย่างให้พยายามหาทางทำให้ตัว เหมือนของเรามาจุดสีแดงตรงกลางห้องให้ได้ วิธีผ่าน แนะนำให้เดินชิดด้านซ้ายหรือขวาจนสุดหีบสมบัติก่อน จากนั้นให้เดินตรงขึ้นไปฝั่งตรงข้ามแล้วอ้อมกลับมาจะทำให้ตัวที่อยู่อีกฝั่ง ข้ามมาฝั่งเราได้ (ถ้าคิดว่าแก้ปริศนาไม่ได้ให้คุยกับตัวเหมือนเราจะสามารถเริ่มเดินใหม่ ตั้งแต่แรกได้) แล้วให้ตัวเราเข้าไปคุยกับเขาแล้วจะได้คีย์เวิร์ด Tundra มา
คีย์เวิร์ด Tundra
จากจุดเริ่มต้นตามทางจะมีพวกตัว Beaver เฝ้าหีบสมบัติอยู่ ห้ามเข้าไปเปิดเด็ดขาดถ้าต้องการคีย์เวิร์ดใหม่ ให้ตรงเข้าไปทางมุมขวาล่างสุดของที่นี่จะพบ Beaver ตัวหนึ่ง ให้คุยกับเขาแล้วเขาจะให้คีย์เวิร์ด Greed กับเรา
คีย์เวิร์ด Greed
จากจุดเริ่มต้นให้หาทางขึ้นไปด้านบนสุดจะพบชายคนหนึ่งนั่งอยู่บัลลังก์ให้ คุยกับเขาแล้วเขาจะขอไอเทม Gold Needle, Golden Shield, Golden Armor และ Gold Cuirass แล้วเขาจะให้คีย์เวิร์ด Authority กับเรา
คีย์เวิร์ด Authority
ภายในห้องนี้จะไม่มีคีย์เวิร์ดใหม่ให้กับเราแต่จะมีเพียงคำใบ้ปริศนา จากจุดเริ่มต้นให้ไปทางขวาจะมีทางขึ้นไปด้านบนได้ เมื่อขึ้นไปด้านบนสุดจะพบทหารคนหนึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์ ให้คุยกับเขาแล้วเขาจะขอสิ่งของที่เป็นตัวแทนแห่ง Saint, Generosity และ Love ถ้าเราให้ของไม่ถูกเราจะต้องสู้กับเขา ถ้าถูกเขาจะให้คำใบ้บอกทางสถานที่ที่หนึ่งกับเรา
คีย์เวิร์ด Ekmet Teloes
จากจุดเริ่มต้นให้ตรงขึ้นไปด้านจะพบ 3 แยกให้ไปแยกทางขวาตรงขึ้นไปจะพบทหารของจักรพรรดิให้กดใช้ไอเทม Ekmet Teloess แล้วทหารจะเปิดทางให้ จากนั้นให้ตรงขึ้นไปจนสุดจะพบกับทหารอีกคนให้คุยแล้วตอบข้อแรก แล้วเราจะต้องสู้กับ Dark Behemoth เมื่อจัดการได้แล้วทหารคนนั้นจะให้คีย์เวิร์ด Woodlands กับเรา
คีย์เวิร์ด Woodlands
ให้ลงไปคุยกับชายที่อยู่หน้าเต็นท์แล้วจะทราบมาว่ามีหนอนยักษ์วนเวียนอยู่ใน ป่า เขาจะขอร้องให้เราจัดการมัน ให้จัดการ Roundworm ที่เดินเป็นฝูงให้หมดแล้วย้อนกลับไปคุยกับชายที่อยู่หน้าเต็นท์แล้วเขาจะให้ คีย์เวิร์ด Fire กับเรา
คีย์เวิร์ด Fire
ให้ตรงขึ้นไปด้านบนของห้องนี้จะพบผู้หญิงคนหนึ่งเธอจะขอให้เราตามหาแมวของ ที่หลงเข้ามาที่นี่ จากจุดที่คุยกับเด็กผู้หญิงให้เดินลงมาทางทิศใต้จนสุดแล้วเลี้ยวขวาจะพบกับ แมวที่ตามหา ให้คุยกับแมวแล้วเราจะจับแมวขึ้นมาระหว่างนี้ให้เดินไปหาเด็กผู้หญิง ห้ามวิ่งไปเด็ดขาดไม่งั้นแมวจะหนีกลับไปที่เดิม เมื่อพาแมวมาให้ผู้หญิงคนนั้นได้เธอจะให้คีย์เวิร์ด Cauldron กับเรา
คีย์เวิร์ด Cauldron
ภายในห้องนี้จะไม่มีคีย์เวิร์ดใหม่ให้กับเราแต่จะมีเพียงคำใบ้บอกทางวิธี ผ่านให้กับเรา ให้คุยกับชายแก่ที่อยู่ใกล้กับเราตรงจุดเริ่มต้นแล้วเขาจะบอกว่าเขาเคยเห็น ชายคนหนึ่งหายตัวไปภายใน Cauldron ให้เราสำรวจตามไห (จุดที่พบจะถูกแรนดอม) จะมีไหหนึ่งที่วาร์ปเราไปหาชายคนนั้นเมื่อคุยกับเขาแล้วเขาจะบอกวิธีผ่าน คีย์เวิร์ด Ultima Tome คือให้กดใช้ไอเทม Toad Tome ถึงจะผ่านคีย์เวิร์ดนี้ได้
คีย์เวิร์ด Ultima Tome
ให้ตรงขึ้นไปด้านบนแล้วเลี้ยวซ้ายจะพบพ่อมดคนหนึ่งให้คุยกับเขาแล้วกดใช้ไอเทม Toad Tome กับเขาแล้วจะได้คีย์เวิร์ด Sorcery มา
คีย์เวิร์ด Sorcery
ให้เราจัดการ Chimera Sphinx ที่อยู่ภายในห้องให้หมด ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 ตัวด้วยกัน เมื่อกำจัดครบแล้วแล้วพ่อมดที่โผล่มาด้านหลังเราทุกครั้งที่สู้เขาจะให้คีย์ เวิร์ด Soul กับเรา
คีย์เวิร์ด Soul
จากจุดเริ่มต้นให้เดินไปทางซ้ายไปยังสุสานที่ 3 จะพบผู้เฒ่าคนหนึ่งให้เข้าไปคุยแล้วเขาจะขอร้องให้เราช่วยส่งวิญญาณที่หลง ทางอยู่กลับไปยังสุสาน ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 ดวงด้วยกัน วิธีส่งก็คือให้คุยกับดวงวิญญาณที่เจอแล้วเดินนำเขาหรือดันเขาจากด้านหลังไป ที่สุสานของเขาแล้ววิญญาณจะหายไป เมื่อส่งครบให้ย้อนกลับไปคุยกับผู้เฒ่าที่เจอตอนแรกเขาจะให้คีย์เวิร์ด Mercy กับเรา
คีย์เวิร์ด Mercy
สำหรับที่นี่จะไม่มีศัตรูเลยให้เดินตรงไปตรงกลางของที่นี่ แล้วให้สำรวจรูปปั้นที่อยู่ด้านบนสุดแล้วรูปปั้นจะให้พรเราพร้อมกับฟื้นค่า พลังต่างๆ กับเราจนเต็ม แล้วให้ตรงไปทางด้านซ้ายจะมีทางไปที่ลูกไฟสีชมพูเพื่อใส่คีย์เวิร์ดใหม่
คีย์เวิร์ด Cyclone
ภายในห้องนี้จะมีทางลับตามกำแพง และยังมีพื้นสีเหลืองที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตามทางตลอดแนะนำให้เดินเหยียบ เพื่อเสียพลังนิดหน่อยแลกกับไม่ต้องเจอศัตรู ให้พยายามหาทางไปตรงกลางห้องจะมีทางลับไปพบชายแก่คนหนึ่งคุยกับเขาแล้วจะได้ คีย์เวิร์ด Giant มา
คีย์เวิร์ด Gian
เราจะโผล่มาในป่าคนยักษ์ ให้เราจัดการคนยักษ์ที่ขวางทางจนขึ้นไปด้านบนสุดของป่า แล้วเข้าไปคุยกับคนยักษ์ตัวที่อยู่บนสุดเขาจะให้คีย์เวิร์ด Utopia กับเรา
คีย์เวิร์ด Utopia
ภายในห้องนี้จะไม่มีคีย์เวิร์ดใหม่ให้กับเราแต่จะมีเพียงคำใบ้ปริศนาจากหีบ สมบัติที่อยู่ใจกลางห้องนี้ ให้หาทางเข้าไปใจกลาง แล้วจะพบกับหีบสมบัติ 20 กล่อง ให้พยายามเปิดให้หมด โดยอย่าเพิ่งเปิดกล่องใบที่ 2 ที่แถวที่ 2 นับจากทางขวา (นับจากบนไปล่าง) เพราะถ้าไปเปิดก่อนเราจะได้คำปริศนาและหีบอื่นที่ยังไม่ได้เปิดจะถูกเปิด ทิ้งทันที แล้วให้ตรงไปทางด้านขวาจะมีทางไปพบลูกไฟสีชมพูเพื่อใส่คีย์เวิร์ดใหม่
คีย์เวิร์ด Palamecia
ตัวเราจะมาโผล่ที่ภายในปราสาท ซึ่งตามพื้นจะมีกับดักให้เราหล่นลงไปด้านล่างแล้วย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น ใหม่ ให้ตรงเข้าไปด้านในสุดจนถึงแยกที่มีขวานติดอยู่ตรงกำแพงให้เดินขึ้นแยกด้าน บนแล้วเราจะตกลงมาในหลุมที่มีโจรสลัดอยู่ให้คุยกับเขาแล้วจะได้คีย์เวิร์ด Iron Bars มา
คีย์เวิร์ด Iron Bars
ที่นี่จะเป็นคุกที่อยู่ในปราสาท ก่อนอื่นให้จัดการอัศวินที่อยู่ด้านข้างแล้วจะรู้ว่ามีทางลับอยู่ตามกำแพง โดยเมื่อจัดการอัศวินแล้วให้เดินไปทางขวาแล้วให้หาทางลับที่จะเข้าไปในคุก ที่โจรสลัดถูกขังอยู่ ซึ่งทางลับจะอยู่ทางกำแพงด้านซ้ายล่างสุดของคุก ให้คุยกับเขาแล้วจะได้คีย์ Chronicles มา
คีย์เวิร์ด Chronicles
เริ่มมาให้คุยกับเด็กผู้หญิงที่อยู่ทางซ้ายแล้วเธอจะให้เราหาหนังสือ 10 เล่มที่กระจายอยู่ตามชั้นหนังสือภายในห้องนี้มาเรียงใส่ ชั้นหนังสือที่อยู่ทางด้านขวามือเรา (จากจุดเริ่มต้น) เมื่อหาครบให้กลับไปคุยกับเด็กคนนั้นแล้วเธอจะให้คีย์เวิร์ด Miasma กับเรา
คีย์เวิร์ด Miasma
ภายในห้องนี้จะไม่มีคีย์เวิร์ดใหม่ให้กับเราแต่จะมีเพียงคำใบ้บอกทางให้กับ เรา ให้ตรงลงมาด้านล่างจะพบวิญญาณผู้ชายคนหนึ่งให้เข้าไปคุยแล้วเขาจะขอร้องให้ จัดการวิญญาณที่กลายร่างเป็นปิศาจ 3 ตัวที่กระจายอยู่ภายในนี้ ให้เราจัดการให้หมดแล้วย้อนกลับมาคุยเขาแล้วเขาจะบอกว่าด้านหลังน้ำตกใน Jade Passage มีถ้ำลับอยู่ จากนั้นให้หาทางขึ้นไปด้านบนสุดของที่นี่จะพบไฟสีชมพูให้ใส่คีย์เวิร์ดใหม่
คีย์ Jade Passage
ที่นี่ให้เราหาทางลงไปน้ำตกด้านมุมซ้ายล่าง แล้วให้เดินไปด้านหลังน้ำตกจะมีทางลับด้านในได้ เมื่อเข้ามาจะพบหีบให้เข้าไปเปิดจะต้องสู้กับบอส Beezelbub เมื่อจัดการได้แล้วจะคีย์เวิร์ดใหม่ Oblivion มา
คีย์เวิร์ด Oblivion
เราจะมาโผล่ที่เมืองซึ่งกำลังถูกศัตรูบุก แล้วชาวเมืองกำลังสับสน ให้เข้าไปคุยกับผู้หญิงที่อยู่กลางหมู่บ้านแล้วเธอจะขอร้องให้หาลูกชายของ เธอที่ผมสีบลอนด์เงินและใส่ที่คาดผมสีฟ้า ให้ตรงไปทางมุมขวาบนของหมู่บ้านจะพบเด็กคนนั้นนั่งอยู่ ให้เข้าไปคุยแล้วเขาจะให้คีย์เวิร์ด Hope กับเรา
คีย์เวิร์ด Hope
ให้ตรงขึ้นมาแล้วเลี้ยวขวาจะพบกับทหารของจักรพรรดิจัดการเขาซะ จากนั้นให้เดินเลาะไปทางขวาจัดการทหารที่ขวางตามทางจนเข้าไปถึงชั้นในสุด แล้วเราจะถูกล้อมล้อมด้วยกองทหาร แล้วจู่ๆ ก็มีคนมาช่วยจัดทหารทั้งหมดให้ ซึ่งเขาก็คือเด็กที่เราช่วยไว้ตอนอยู่ในคีย์เวิร์ด Oblivion นั่นเอง แล้วเขาจะให้คีย์เวิร์ด Destruction กับเรา
คีย์เวิร์ด Destruction
ให้เข้าไปคุยกับพระราชาที่อยู่ภายในห้องนี้ จากนั้นให้เข้าไปคุยกับพ่อมดที่อยู่ทางด้านล่างเขาจะให้หา Magictite 3 สี Red, Green และ Blue ซึ่งของทั้ง 3 สิ่งนี้จะอยู่ในลังใกล้ๆ กับพ่อมดทั้ง 3 คนที่อยู่ภายในนี้ เมื่อได้ครบแล้วให้กลับไปคุยกับพ่อมดที่ให้หาของ แล้วให้ไปคุยกับพระราชาเขาจะให้คีย์เวิร์ด Guardian กับเรา
คีย์เวิร์ด Guardian
สำหรับที่นี่จะเป็นเนื้อเรื่องสำคัญที่ถ้าทำสำเร็จเราจะได้ไอเทมสำหรับไปเอา เวทย์สุดยอด ซึ่งที่นี่เราจะต้องหาทางไปบ้านของ Deumion ให้ได้ก่อนที่ทหารจะไปถึงบ้าน โดยให้ทำตามนี้ให้คุยกับทหารให้เดินลงไปด้านล่าง จากนั้นให้อ้อมไปทางซ้ายเพื่ออ้อมมาดักหน้าพวกทหาร แล้วให้เข้าไปคุยกับทหารอีกครั้ง ทหารจะเดินลงมาด้านล่างอีก ให้รีบเดินมาอ้อมมาทางขวาเพื่อมาดักด้านหน้าทหาร แล้วคุยอีกครั้ง ทหารจะเดินลงมาด้านล่างอีก ให้อ้อมลงมาทางด้านขวาลงมาแล้วคุยกับทหารอีกครั้ง แล้วทีนี้จะมีอีเวนท์ที่ Deumion กำลังเดินทางเข้าบ้าน แล้วจะตัดภาพมาที่เราให้เดินขึ้นไปแล้วอ้อมไปทางซ้ายจะมีทางเลาะไปบ้านของ Deumion ให้เข้าไปในบ้านจะพบกับเหตุการณ์ที่ Demion คุยกับแม่ของเขาแล้วพวกทหารจะมาจับตัว Deumion ไป ทีนี้พอออกจากบ้านตรงที่แม่ของ Deumion ร้องไห้อยู่ให้เดินขึ้นไปจะพบแสงสีขาวสะท้อนอยู่ให้เข้าไปเก็บจะได้ไอเทม Light of Hope มา
มื่อสามารถปลดผนึกทั้ง 3 ถ้ำได้ครบหมดแล้วให้บังคับเรือเหาะไปที่ภูเขาเล็กๆ ที่อยู่ทางทิศเหนือของเมือง Poft (สังเกตดีๆ จะมีจุดสีขาวตรงภูเขา) ให้เข้าไปที่นั่นจะเป็น Arcane Sanctuary ให้เข้าไปด้านในจะมีกองไฟ 3 กอง (ถ้าปลดผนึกถ้ำไหนไม่ครบก็จะไม่มีกองไฟและไม่สามารถเข้าประตูด้านบนได้) ให้ตรงเข้าประตูด้านในแล้วเข้าไปจนสุดจะพบ Deumion ยืนขวางผนึกอยู่ ให้คุยกับ 2 ครั้งแล้วเราจะต้องสู้กับ Phrekyos ผู้พิทักษ์ของเขา ให้จัดการให้ได้และเขาจะให้ของรางวัลแก่เราโดยให้เราเลือกคีย์ไปให้เขา ซึ่งคีย์เวิร์ดแต่ละอันก็จะได้ไอเทมต่างกัน เช่น Ragnarok, Artemis Bow, Longinus, Staff of Light เป็นต้น แต่ว่าจะมีคีย์เวิร์ดพิเศษอยู่ 2 ตัวคือ Hope และ Destruction ซึ่งอันแรกถ้าเราเลือก Hope แล้วเลือกไอเทม Light of Hope เขาจะมอบสุดยอดเวทมนตร์ฟื้นพลัง Revive Tome แต่ถ้าเลือกคีย์เวิร์ด Destruction เราจะต้องต่อสู้กับ Deumion (ไม่มีรายชื่อใน Bestiary) เมื่อจัดการเขาได้แล้ว จะสามารถเข้าไปประตูด้านหลังเขา ให้เข้าไปแล้วสำรวจที่ลูกแก้วด้านในจะได้ Destroy Tome (เป็นเวทย์ที่สุดยอดมากๆ ใช้ ไม่ต้องอัพเลเวลเวทย์ ใช้ Mp ทั้งหมดที่เรามีอยู่ เมื่อใช้จะฆ่าทุกคนที่อยู่ในฉากต่อสู้ทั้งหมด ส่วนผู้ใช้จะเหลือ Hp แค่ 1 -*-) ซึ่งถ้าได้เวทย์อย่างใดอย่างหนึ่งมาแล้วนั้นจะไม่สามารถเข้ามาเก็บไอเทมอื่น โดยใช้คีย์เวิร์ดได้อีกแล้ว
